คู่มือวิธีการใช้งานและการบำรุงรักษา PRESSURE DIAPHRAGM TANK
ประโยชน์ของถังแรงดัน PRESSURE DIAPHRAGM TANK
- เพื่อช่วยหน่วงการทำงานของเครื่องสูบน้ำ (Start-Stop) ให้มีระยะเวลาที่นานขึ้น
มีผลทำให้เครื่องสูบน้ำและระบบ Booster Pump มีอายุการใช้งานได้นานขึ้นเช่นกัน
(ช่วยลดพลังงาน, ลดค่าใช้จ่าย, ลดการสึกหรอ)
- เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นในระบบท่อ
ตำแหน่งการติดตั้ง
- ติดตั้งถังอยู่ใกล้ปั๊ม เป็นแบบที่เลือกใช้มากที่สุด เพราะสะดวก
และสามารถควบคุมดูแลได้ง่าย
- ติดตั้งตรงกลางหรือส่วนปลายท่อ ในกรณีที่แรงดันใช้งานต้นทางสูงกว่า
แรงดันสูงสุดของถังแรงดันที่สามารถรับได้
- ติดตั้งใกล้กับส่วนที่ระบบเกิดการ Shock เพื่อควบคุมการกระแทกหรือการเปลี่ยนแปลง
ความดันในระบบอย่างรวดเร็ว หรือเพื่อป้องกันการเกิดแรงดันย้อนกลับ,
เพื่อป้องกันอุปกรณ์ในระบบเกิดความเสียหาย เช่น เช็ควาล์ว, โซลีนอยด์วาล์ว,
มิกซิ่งวาล์ว, มิเตอร์, ปั๊ม และท่อ
ระยะเวลาในการตรวจเช็ค
- เช็คการทำงานของ Booster Pump ทำงานผิดปกติหรือไม่ ทุกสัปดาห์
- ตรวจเช็คลมใน Pressure Tank ทุกๆ 6 เดือน
อาการเสียและการแก้ไข
รายการ |
อาการ |
สาเหตุ |
การแก้ไข |
1 |
ปั๊มสตาร์ท
หยุดอย่างรวดเร็ว |
- ตั้ง Pressure Switchไม่ถูกต้อง
- ลมใน Tank ไม่ถูกต้อง
- ไดอะแฟรมในถังชำรุด
- ฟุตวาล์ว/เช็ควาล์วชำรุด
- ท่อรั่ว
|
- ตั้ง Pressure Switchให้ถูกต้อง
- ตรวจเช็คและปรับให้ถูกต้อง
- เปลี่ยนยางไดอะแฟรม, เปลี่ยนถังใหม่
- ซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่
- ซ่อม
|
2 |
มีน้ำออกจากจุ๊บเติมลม |
ไดอะแฟรมใน Tank ชำรุด |
เปลี่ยนยางไดอะแฟรม, เปลี่ยนถังใหม่ |
3 |
Tank เก็บลมไม่อยู่ |
- จุ๊บเติมลมชำรุด
- ไดอะแฟรมใน Tank ชำรุด
- หน้าแปลนของถังไม่สนิท
- น๊อตดึงยางตัวบนคลายตัว
|
- เปลี่ยนจุ๊บเติมลม
(Air Valve) ใหม่
- เปลี่ยนยางไดอะแฟรม, เปลี่ยนถังใหม่
- ขันน๊อตหน้าแปลนให้แน่น
- ขันน๊อตตัวบนให้แน่น
|
วิธีปฏิบัติและขั้นตอนในการเช็คลมในถัง
- เช็คการ Start-Stop ของระบบว่าปั๊มเดินที่แรงดันเท่าไร และปั๊มหยุดที่แรงดันเท่าไร
- ปิดวาล์ว No.1 แล้วไปเปิดวาล์ว No.2 เพื่อระบายน้ำในถังแรงดันออกจนหมด
- ใช้เครื่องมือวัดลมยางรถยนต์ทั่วไป วัดลมในถังที่จุ๊บเติมลม No.3
หมายเหตุ
- ถ้ามีน้ำออกมามากและต่อเนื่องจากลูกศรในขณะที่กด ให้สันนิษฐานว่ายางไดอะแกรมแตก
- ถ้ากดแล้วมีลมออกมานิดหน่อย วัดลม แล้วอ่านค่าและจดบันทึกลมใน Pressure Tank จากเครื่องวัด
ตัวอย่าง
สมมุติว่าปั๊มในระบบเดินที่ 40 PSI และหยุดที่ 55 PSI
ลมในถังแรงดัน (Precharge Pressure) คือ น้อยกว่าหรือเท่ากับจุด Start หรือ น้อยกว่า 10% ของจุด Start
จากตัวอย่าง จุด Start ของปั๊มที่ 40 PSI
ดังนั้น ลมในถังจะต้องมี = 40 PSI หรือ น้อยกว่า 10 % ของจุด Start = 36 PSI
- ถ้าค่าที่อ่านจากเครื่องมือวัดลมยาง อ่านได้น้อยกว่าจุด Start มากๆ ให้เติมลม
- เพิ่มเข้าไป แต่ถ้ามีมากกว่าจุด Start ให้เอา ลมออก
- เมื่อเติมลมถูกต้องแล้วให้ปิดวาล์ว 2 และ เปิดวาล์ว 1 ตามลำดับ
ข้อควรระวัง
- ถ้ามีลมในถังแรงดันมากกว่าจุด Start มากจะทำให้ปั๊มไม่สามารถอัดน้ำเข้าในถังได้
- ถ้าลมในถังแรงดันมีมากกว่าจุด Start และ Stop ของปั๊มมากเกินไป จะทำให้ระบบการ
Start-Stop กระชากอย่างรุนแรง
